ลักษณะทั่วไป
พริก เป็นพืชในตระกูล Solanaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Capsicum frutescens L. ชื่อภาษาอังกฤษว่า Chilli peppers, chili, chile หรือ chilli มาจากคำภาษาสเปน ว่า chile โดยส่วนมากแล้ว ชื่อเหล่านี้มักหมายถึง พริกที่มีขนาดเล็ก ส่วนพริกขนาดใหญ่ที่มีรสอ่อนกว่าจะเรียกว่า Bell Pepper ในสหรัฐอเมริกา Pepper ในประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์, capsicum ในประเทศอินเดียกับออสเตรเลีย และ Paprika ในประเทศทวีปยุโรปหลายประเทศ พริกชนิดต่างๆ มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก เพราะพริกเป็นเครื่องเทศที่สำคัญชื่อหนึ่ง และยังมีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรด้วยเช่นกัน
การปฏิบัติดูแลรักษา
1. การให้น้ำ พริกเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ดินควรมีความชุ่มชื้นพอดีอย่าให้เปียกแฉะเกินไปจะทำให้ต้นพริกเหี่ยวตายได้ ในช่วงเก็บผลผลิตควรลดการให้น้ำเพื่อจะทำให้คุณภาพผลผลิตดี สีของผลสวย
2. การกำจัดวัชพืช ในระยะที่ต้นพริกยังเล็กควรมีการกำจัดวัชพืชให้บ่อยครั้ง หากวัชพืชคลุมต้นพริกช่วงระยะการเจริญเติบโต จะทำให้แคระแกร็นคุณภาพผลผลิตไม่ดี การกำจัดวัชพืชน้อยครั้งยังมีผลทำให้ดินที่มีผิวหน้าแข็งหรือเหนียวจับกันเป็นแผ่น น้ำซึมผ่านได้ยากให้มีการถ่ายเทอากาศและระบายน้ำดี
3. การใส่ปุ๋ย พริกเป็นพืชที่มีอายุการเก็บผลค่อนข้างยาวนาน ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบ เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 ในอัตรา 50-100กก.ต่อไร่ เพื่อเป็นการช่วยเสริมการเจริญเติบโต นอกจากนี้ควรใส่ปุ๋ยน้ำทางใบโดยทำการฉีดพ่นทุกครั้งหลังการเก็บเกี่ยว การใช้ปุ๋ยเคมีจะได้ผลต่อพืชสูงสุดขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินกับปริมาณการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ควบคู่กันไปด้วย การใส่ปุ๋ยควรแบ่งใส่ 2 ครั้ง ใส่ครั้งแรกปริมาณครึ่งหนึ่งก่อนปลูกเป็นปุ๋ยรองพื้นพรวนกลบลงในดิน โรยปุ๋ยไนโตรเจนใส่ข้างต้นพริก เมื่ออายุ 10 -14 วัน หลังจากย้ายกล้า ใส่ครั้งที่สองปริมาณอีกครึ่งหนึ่งที่เลหือใส่โรยข้างแล้วแต่งหน้าด้วยปุ๋ยไนโตรเจนพรวนกลบลงในดิน
ประโยชน์
พริกมีวิตามินซี สูง เป็นแหล่งของกรด ascorbic ซึ่งสารเหล่านี้ ช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหารเพื่อให้ดูดซึมอาหารดีขึ้น ช่วยร่างกายขับถ่าย ของเสียและนำธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อของร่างกาย (tissue) สำหรับพริกขี้หนูสดและพริกชี้ฟ้าของไทย มีปริมาณวิตามิน ซี 87.0 - 90 มิลลิกรัม / 100 g นอกจากนี้พริกยังมีสารเบต้า - แคโรทีนหรือวิตามินเอ สูง (พริกขี้หนูสด 140.77 RE )
พริกยังมีสารสำคัญอีก 2 ชนิด ได้แก่ Capsaicin และ Oleoresinโดยเฉพาะสาร Capsaicin ที่ นำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และผลิตภัณฑ์รักษาโรค ในอเมริกามีผลิตภัณฑ์จำหน่ายในชื่อ Cayenne สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร สาร Capsaicin ยังมีคุณสมบัติทำให้เกิดรสเผ็ด ลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ หัวไหล่ แขน บั้นเอว และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั้งชนิดเป็นโลชั่นและครีม ( Thaxtra - P Capsaicin) แต่การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจมีผลกระทบต่ออาการหยุดชะงักการทำงานของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน เพื่อความปลอดภัย USFDA ได้กำหนดให้ใช้สาร capsaicin ได้ ที่ความเข้มข้น 0.75 % สำหรับเป็นยารักษาโรค
Eng ver. by Google
GeneralizationPepper plants in the Solanaceae family, Capsicum frutescens L. is the scientific name, English name that Chilli peppers, chili, chile or chilli comes from the Spanish word chile is that in most cases. These names often refer to.Pepper is small. The large pepper to taste weaker than in the United States are known as Bell Pepper Pepper in England and Ireland, capsicum in India and Australia, and Paprika in many European countries. Pepper types.Originating from North America. Which today has grown in many countries around the world. The pepper is a spice that one name. It also has medicinal properties of herbs as well.
Performing maintenance.1. The water pepper plants need adequate water. And consistency in the early stages of growth. Soil should be moist, not wet it too early to make chili wilt die. During the harvest should reduce the water to make the output quality of the color is pretty.2. To get rid of weeds. In the beginning, there should be a little pepper weed frequently. If weeds cover the peppers over a period of growth. Stunting the output quality is poor.Weeding at times also result in soil is hard or sticky surface to catch a disc. Water through it to the air and good drainage.3. The pepper is a plant fertilizer which is kept quite long.Fertilizer should be used as a fertilizer that has phosphorus fertilizer formulations such as 15-15-15 or 13-13-21 for a rate of 50-100 kg per hectare. In order to boost growth.Also, fertilizing, spraying water through the leaves after harvest. The use of chemical fertilizers will affect most plants depends on the fertility of the soil with organic fertilizer together with Fertilizer should be divided into 2 times the first half before planting a bunch of negative priming fertilizer into the soil. Sprinkle pepper on nitrogen above the age of 10 -14 days after moving it. Put the other half of the second volume of the sound level is then topped up with a bunch of negative nitrogen into the soil.
The benefits.Peppers are high in vitamin C and ascorbic acid as a source of these compounds. Help expand the blood vessels in the intestines and stomach to improve absorption of food.Help the body excrete Waste and nutrients to body tissues (tissue) for chilli and fresh Thai chili. Vitamin C from 87.0 to 90 mg / 100 g and peppers also contain beta - carotene or vitamin A is high (fresh chilli 140.77 RE).Capsicum also contains two major types and Oleoresin Capsaicin Capsaicin is a substance used in the food industry. And treatment. American products are sold in a Cayenne for killing bacteria in the stomach of Capsaicin also possesses a peppery taste. Reduce the pain of his waist, arms and shoulder muscles of the body parts and products are available both as a lotion and cream (Thaxtra - P Capsaicin), but in excessive amounts. Stop signs may have an impact on the functioning of the muscles as well.Safety USFDA has determined that use of capsaicin at concentrations of 0.75% for treatment.